อยากออกบูธต้องเตรียมตัวอย่างไร | บริษัท เอส แคปปิตอล จำกัด สินเชื่อธุรกิจ จัดกิจกรรม อีเว้นท์ โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ภาครัฐ

อยากออกบูธต้องเตรียมตัวอย่างไร

  23 ก.พ. 2559

เนื่องจากเป็นโอกาสที่ จะได้พบลูกค้ามากมาย กลุ่มผู้สนใจในสินค้าเรา ดังนั้นต้องมาเตรียมตัวกันหน่อยครับ

1. สินค้าเรามีประโยชน์อย่างไรต่อลูกค้า ทำไมลูกค้าต้องซื้อเรา
     หาให้เจอ แล้วใช้จุดนี้เป็นสิ่งสำคัญในการนำเสนอ และเพิ่มสิ่งเชิญชวนอื่นๆด้วย
หากสินค้าที่เหมือนๆกัน เราต้องสร้างความแตกต่าง อาจมีการจัดเป็นเซ็ต เป็นแพ็ค ยิ่งซื้อมากได้ลดมาก หรือแถมมาก ให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากขึ้น หรือมีจัดกระเช้าตามเทศกาลให้ลูกค้า เป็นต้น โดยเมื่อออกงานอาจจะเตรียมแผนสำรองไว้ด้วย ทั้่งแบบเราขายเจ้าเดียวหรือมีคู่แข่งประชันกัน และอย่าลืมแผน
กระตุ้นการขายช่วงโค้งสุดท้าย จะได้ไม่ต้องขนสินค้ากลับคลังครับ

2. การเลือกงานที่ออกบูธ และ เลือกทำเลที่ตั้ง
     โดยจุดหลักต้องเป็นงานที่มีโอกาศซื้อสินค้าเราเป็นหลัก และเราควรเลือกทำเลที่ตั้งที่ลูกค้าเป้าหมาย ดูจากวัตถุประสงค์งานและผังงาน ทางเข้าออกงาน ที่จอดรถ ทิศทางผู้ชมงานที่คาดว่าจะเข้ามา จุดไฮไลท์ของงาน จำลองนึกว่าเราไปงานเราจะเดินเที่ยวงานอย่างไร คนส่วนใหญ่มาทางไหนเดินเที่ยวงานทางไหน ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่คนเดินผ่านมาก สะดวกแวะมาก ยิ่งขายง่าย

3. ระบบบัญชี การเก็บเงิน
     ในการขายสินค้าในงานออกบูธ ต้องมีความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าที่อาจเข้ามาพร้อมกันหลายราย ซึ่งอาจมีทั้งมิจฉาชีพแฝงเข้ามาด้วย ทางที่ดี นอกจากสินค้าจัดวางเป็นระเบียบ ลูกค้าดูง่าย คนขายดูแลง่ายแล้ว กำลังคนอาจจะต้องมีเตรียมพร้อมไว้สำหรับดูแลลูกค้าหลายราย มีคนคอยดูแล ซัพพอร์ตเบื้องหลังให้พนักงานขายด้วย ส่วนกระเป๋าเงินสำคัญมากควรเก็บติดตัวไว้ ปลอดภัยในการรับทอนเงิน อย่าชะล่าใจหรือรีบรน แม้ในบางสถานะการมีการเร่งรีบ เพราะอาจถูกหลอกด้วย แบงค์ปลอม ที่ต้องเสียทั้งของและเงินทอน หรืออาจเป็นแบงค์จริง แต่ได้รับไม่ครบ หรือถูกฉกฉวยไป ส่วนระบบบัญชีนั้น เราเตรียมไว้เพื่อสามารถ เช็คสต๊อกสินค้า สั่งซื้อเพิ่ม หรือค้นหาให้สินค้าให้ลูกค้าได้สะดวก

4. การสร้างเครือข่าย กับ ผู้ค้าด้วยกัน กับลูกค้าที่แวะเข้ามาในงาน
     ทั้งแจกนามบัตร ร่วมเล่นเกมส์ แอดไลน์ แอดเฟรน กันได้สะดวกเมื่อเราออกงาน ผู้ค้าต่าง ๆ ถือว่าเป็นมิตรกัน มีมากยิ่งดี เพราะมีงานที่ไหนเมื่อไร ติดต่อสอบถามกันได้ หรือ แม้แต่รวมตัวกันต่อรองก็ยังได้ ส่วนผู้เข้ามาแวะชมแม้ยังไม่ได้ซื้อก็ไม่เป็นไร หากสามารถผูกสัมพันธ์ไว้ แจกนามบัตร (วิธีเก่า) หรือ ให้ร่วมเล่นเกม กดไลค์ เพจแจกของที่ระลึก หรือแอดเป็นเพื่อนแจกของที่ระลึก ก็ได้ เพราะเราสามารถ มีช่่องทางสื่อสาร สร้างความประทับใจ และ โอกาสในการขายได้อีกในอนาคต

5. การติดต่อ ซัพพลายเออร์สินค้า
     เงื่อนไข ดีสุด คือ ได้เครดิต มีการรับประกัน ถ้าขายไม่หมดคืนของได้ ยิ่งดีครับ ส่วนบางที อาจขอสปอนเซอร์ ของแจกของแถม จากซัพพลายเออร์ด้วยก็ได้หากคุยกันถูกคอ เพราะยิ่งเราขายได้มากนั้นก็คือเขาขายได้มากด้วย

6. เตรียมอุปกรณ์ และการจัดเก็บระหว่างงาน
     ในระหว่างงานสินค้าบางอย่างอาจจะไม่สะดวกในการขนย้ายกลับ ถึงแม้จะมีรปภ.คอยเฝ้าให้ แต่ถ้าให้ดี ควรมีผ้าหรือพลาสติกกันน้ำ แบบทึบแสงไม่เห็นสินค้าคลุมไว้ เพราะการมองไม่เห็นสินค้าช่วยลดการ ล่อตาล่อใจได้พอสมควร ส่วนการกันน้ำ หากเป็นที่แจ้ง หรือ ละอองฝนอาจปลิวเข้ามาได้ก็ช่วยป้องกันสินค้าเราได้พอสมควร

7. บรรจุภัณฑ์ และ บริการหลังการขาย
     สินค้าดีมี บรรจุภัณฑ์ดี และ บริการหลังการาขายดี ย่อมช่วยสร้างความประทับใจ เช่่นหากสินค้าเกะกะ หรือมีน้ำหนักมาก อาจจะมีบริการส่งถึงรถให้ลูกค้าด้วย

8. เตรียมเงินทุน ที่ต้องใช้ทั้งก่อนงานและระหว่างงาน
     ในส่วนของสิ่งที่สำคัญมากอีกข้อที่พลาดไม่ได้คือ เงินทุน ทั้งเงินตัวเอง ญาติพี่น้อง เพื่อใช้ในการเตรียมสินค้า และเงินทอนหมุนเวียนในช่วงการขายควรมีพร้อม แต่หากด้านเงินทุน ที่ไม่ต้องรบกวนหยิบยืมเพื่อนฝูงญาติพี่น้องให้รำคาญใจ เราก็สามารถติดต่อสถาบันการเงินที่เข้าใจเราแทนดีกว่าครับ


สนใจสินเชื่อเพื่อสร้างรายได้เสริม ออกบูธ จัดงาน ซื้อมาขายไป คลิก


ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ทาง Facebook